99/3 หมู่2 ต.น้ำชุน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ 67110
+66 081 5342649
99/3 หมู่2 ต.น้ำชุน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ 67110
+66 081 5342649

ปลูกขิงเป็นอาชีพทำอย่างไร

ปลูกขิงเป็นอาชีพทำอย่างไร

ขิงเป็นพืชที่ชอบอากาศชื้น มีอุณหภูมิสูงพอสมควร พื้นที่ในการปลูกควรมีร่มเงากำบังบ้าง แหล่งปลูกขิงที่ดีควรมีระดับฝนตกเฉลี่ย 80-100 นิ้วต่อปี มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 4,000-5,000 ฟุต ดินที่เหมาะสมในการปลูก ควรเป็นดินร่วนปนทราย มีอินทรีย์วัตถุสูงพอสมควร การระบายน้ำดี มีความเป็นกรด – ด่าง ประมาณ 6-6.5 หากพบว่าดินเป็นกรดมากก็ให้ใส่ปูนขาวเพื่อปรับสภาพดินประมาณ 200-400 กิโลกรัมต่อไร่

แหล่งปลูกและปริมาณผลผลิตขิง : เช่น จังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี และเพชรบุรี ภาคตะวันออกที่จังหวัด ปราจีนบุรี และภาคใต้ที่จังหวัดชุมพร และนราธวาส เป็นต้น ซึ่งผลผลิตทั้งหมดที่ได้ในแต่ละปีจะอยู่ระหว่าง 45,000-50,000 เมตริกตัน

พันธุ์ขิงที่นิยมปลูกในปัจจุบัน : ได้แก่

1. ขิงไทย ที่นิยมปลูกในบ้านเรามีอยู่หลายพันธุ์ด้วยกัน เช่น ขิงขาว ขิงมาเลย์ ขิงไทย ขิงเผ็ด ขิงเล็ก ขิงเผ็ด หรือขิงดำ ขิงชนิดนี้มีลักษณะที่เห็นชัดคือมีข้อถี่ แง่งขิงมีขนาดเล็กและสั้น แง่งเบียดชิดกันมาก มีเสี้ยนมาก รสชาติค่อนข้างเผ็ด

2. ขิงใหญ่ ขิงหยวกหรือขิงขาว ขิงชนิดนี้มีข้อห่าง แง่งขิงมีขนาดใหญ่แง่งขิงไม่เบียดกันชิด เนื้อละเอียดมีเสี้ยนน้อยมากหรือไม่มีเสี้ยน รสเผ็ดน้อย ขิงสดที่มีจำหน่ายในท้องตลาดทั่ว ๆ ไป ส่วนมากมักเป็นขิงชนิดนี้

การเก็บรักษาท่อนพันธุ์ : แง่งขิงที่ขุดขึ้นมาแล้วจะมีระยะการพักตัวประมาณ 1-3 เดือน ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะสมเพื่อรอฤดูปลูกในฤดูฝน ควรเก็บไว้ในที่แห้งและเย็น มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ก่อนเก็บให้นำท่อนพันธุ์มาจุ่มลงในน้ำยาเคมี เพื่อป้องกันเชื้อราและแมลงศัตรูขิง สารเคมีที่ใช้อาจใช้ยาพวกไดโฟลาแทน 80 หรือแมนเซ็ท-ดี ผสมน้ำในอัตรา 2-4 ช้อนแกง ต่อน้ำ 1 ปีบ หรือใช้เบนเลทผสมน้ำในอัตรา 1 ช้อนแกงต่อน้ำ 1 ปีบก็ได้

ฤดูการปลูกขิง :

++ การปลูกในฤดูฝน ++ ขิงที่ปลูกขายกันไม่ว่าจะเป็นขิงอ่อนหรือขิงแก่ส่วนใหญ่จะเป็นขิงที่ปลูกในฤดูฝนเกือบทั้งหมด การปลูกขิงในฤดูฝนนี้ นิยมปลูกต้นฤดูฝน ในระหว่างเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี

++ การปลูกนอกฤดูฝน ++ โดยจะทำการปลูกในฤดูหนาว ประมาณเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์

การเตรียมดินปลูก : โดยทำการไถพรวนดิน 3-4 ครั้ง จากนั้นก็ทำการยกแปลงหรือยกร่องปลูก ถ้าปลูกแบบแปลงก็ทำให้การยกแปลงปลูกให้มีขนาดกว้าง 1 เมตร สูง 15-20 เซนติเมตร ความยาวขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ ถ้าปลูกแบบร่องก็ทำเป็นร่องปลูก โดยให้ระยะห่างระหว่างร่องประมาณ 50-70 เซนติเมตรส่วนความสูงและความยาวก็เช่นกัน ก่อนการปลูกจึงควรหาปุ๋ยอินทรีย์อาจเป็นปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักก็ได้ในอัตรา 3-4 ต้น/ไร่ ใส่ปูนขาวประมาณ 200-400 กิโลกรัม / ไร ควรรดน้ำทิ้งไว้ 15-30 วัน จึงค่อยลงมือปลูกต่อไป

การเตรียมพันธุ์ปลูก : ทำการตัดท่อนพันธุ์เป็นท่อน ๆ ยาวประมาณท่อนละ 2 นิ้ว โดยแต่ละท่อนให้มีตาบนแง่ง ประมาณ 2-3 ตา นำท่อนพันธุ์ดังกล่าวไปแช่ในน้ำยากำจัดเชื้อราอีกครั้ง อาจใช้ยาพวกไดโฟลาแทนหรือแมนเซ็ท-ดี ในอัตรา 2-4 ช้อนแกงต่อน้ำ 1 ปีบ หรือใช้เบนเลทในอัตรา 1 ช้อนแกงต่อน้ำ 1 ปีบ แช่ไว้ประมาณ 10-15 นาที หรืออาจใช้วิธีคลุกด้วยยาซีรีแซนผงผสมน้ำคลุกได้เช่นกัน นำท่อนพันธุ์ที่แช่หรือคลุกยาดังกล่าวมาผึ่งแดดให้แห้งอีกครั้งหนึ่ง จึงค่อยนำไปปลูก สำหรับ พื้นที่ปลูก 1 ไร่ จะใช้ท่อนพันธุ์ขิงประมาณ 200-400 กิโลกรัม

วิธีการปลูกและระยะปลูก :

การปลูกโดยอาศัยน้ำฝน เป็นการปลูกในร่องหรือระหว่างร่อง โดยมีสันร่องสูงประมาณ 15-20 เซนติเมตร ปลูกก็โดยนำท่อนพันธุ์วางลงในหลุมปลูกหลุมละ 1 ท่อน หลุมปลูกควรมีความลึกประมาณ 4-5 เซนติเมตร ระยะระหว่างหลุม 20-25 เซนติเมตร และระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 50-70 เซนติเมตร ในพื้นที่ 1 ไร่ จะใช้ท่อนพันธุ์ปลูกประมาณ 190-230 กิโลกรัม

การปลูกโดยอาศัยน้ำชลประทานโดยจะทำการปลูกบนสันร่อง ร่องปลูกสูงประมาณ 15-20 เซนติเมตร และมีความกว้างประมาณ 1 เมตร ระหว่างแปลงปลูกควรมีทางระบายน้ำกว้างประมาณ 30 เซนติเมตร วิธีนี้จะใช้ระยะปลูกที่ห่างกว่าวิธีแรกเพื่อสะดวกในการใช้น้ำซึ่งไม่เหมือนกับการปลูกในวิธีแรก ที่ต้องปลูกชิดเพื่อรักษาความชื้นเอาไว้ มีหลุมปลูกลึกประมาณ 4-5 เซนติเมตร ระยะปลูกระหว่างต้น 30-35 เซนติเมตร ระหว่างแถวประมาณ 50-70 เซนติเมตร

การปลูกขิงอ่อน เตรียมแปลงแล้วก็นำเอาแง่งขิงที่เตรียมไว้ลงในแปลงปลูก โดยใช้มือขุ้ยทรายหรือเสียมเล็ก ๆ ก็ได้ ลึกประมาณ 8 เซนติเมตร แล้ววางท่อนพันธุ์ในแนวตั้ง หลังจากปลูกประมาณ 1 เดือน ขิงจะแทงหน่อขึ้นมาให้เห็นมีความสูงประมาณ 15-20 เซนติเมตร ขิงมีอายุได้ 2 เดือน ขิงรุ่นแรกจะโผล่พ้นพื้นทรายขึ้นมาสูงประมาณ 15-20 เซนติเมตร ถ้าหากสูงขึ้นมาประมาณ 30-40 เซนติเมตร ก็ทำการเก็บหน่อขายได้ ระยะเวลาที่เก็บแต่ละครั้งจะห่างกันประมาณ 12-15 วัน จากสถิติผลผลิตที่ได้นั้นแม่ขิงที่เพาะ 100 กิโลกรัม จะเก็บขิงอ่อนรุ่นแรกได้ประมาณ 13 กิโลกรัม ส่วนรุ่นหลัง ๆ จะเก็บได้รุ่นละประมาณ 6-12 กิโลกรัม

การดูแลรักษาขิง :

การให้น้ำ โดยติดตั้งระบบการให้น้ำแบบสปริงเกอร์ ซึ่งอาจจะต้องลงทุนสักหน่อย แต่เมื่อเทียบกับผลที่ได้แล้วก็นับได้ว่าคุ้มกันอยู่ หากพบว่าหน้าดินและต้นขิงเริ่มแสดงอาการเหี่ยวควรทำการให้น้ำทันที ส่วนการปลูกโดยอาศัยการชลประทานนั้น เมื่อตรวจแปลงปลูกพบว่าดินเริ่มแห้ง ก็ทำการทดน้ำเข้าแปลงปลูกหากพบว่าในแปลงปลูกมีน้ำท่วมขังให้รีบระบายน้ำออกทันที

การคลุมดิน จะสามารถลดค่าใช้จ่ายในการกำจัดวัชพืชไปด้วย ช่วยรักษาความชื้นในแปลงปลูก สำหรับวัสดุคลุมดินที่ใช้นั้นก็หาที่มีอยู่ตามหมู่บ้าน เช่น ทางมะพร้าว ใบหญ้าคา ฟางข้าว เป็นต้น

การใส่ปุ๋ย สำหรับปุ๋ยที่ใช้คือปุ๋ยสูตร 15-15-15 ซึ่งจะใช้เป็นปุ๋ยรองพื้นในอัตรา 50-60 กิโลกรัมต่อไร่ ต่อจากนั้นเมื่อขิงอายุได้ 2 เดือน และ 4 เดือน จะใช้ปุ๋ยสูตร 13-13-21 ในอัตรา 50-60 กิโลกรัมต่อไร่ การใส่ควรใส่ระหว่างหลุมปลูกประมาณหลุมละ 1 ช้อนชา

การกำจัดวัชพืช จะเริ่มตั้งแต่การเตรียมแปลงปลูก โดยในการไถจะต้องทำการไถพรวนเก็บเอาเศษวัชพืชออกให้หมด หลังจากปลูกขิงเรียบร้อยแล้วนั้น สามารถที่จะทำได้วิธีเดียว คือ ใช้มือถอน เนื่องจากเป็นวิธีที่กระทบกระเทือนต่อขิงน้อยที่สุด

การกลบโคนหรือถมโคน นอกจากจะเป็นการกำจัดวัชพืชไปในตัวแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นให้ขิงแตกหน่อแตกกอดี และแง่งจะเจริญสมบูรณ์ ครั้งแรก ทำการกลบโคนเมื่อขิงมีอายุ 2 เดือน หรือเมื่อต้นขิงงอกขึ้นมาได้ประมาณ 3 ต้น โดยใช้จอบโกยดินบนสันร่องกลบโคนต้นขิงเพียงครึ่งหนึ่งของร่อง ครั้งที่สอง กระทำหลังจากครั้งแรกประมาณ 1 เดือน คือเมื่อขิงมีอายุ 3 เดือน

โรคและแมลงศัตรูขิง :

1. โรคแอนแทรคโนส อาการ ใบของของจะแสดงอาการเป็นจุดเล็ก ๆ มีลักษณะกลมเหมือนรูปไข่ และจะขยายจนมีขนาดใหญ่ชนกัน

++ การป้องกันกำจัด ++ สารเคมีที่ใช้กำจัดโรคแอนแทรคโนส มีพวก ไดโฟลาแทน หรือเบนเลท ใช้ฉีดพ่นไปที่ใบให้ทั่วทั้งแปลงปลูก

2. โรคใบจุดอาการ ขิงที่เป็นโรคจุดจะมีอาการเกิดจุดฉ่ำน้ำ สีเหลืองบนใบและลำต้น
++ การป้องกันกำจัด ++ สารเคมีที่ใช้ในการฉีดพ่นอาจใช้ไดฟูลาแทน หรือเบนเลทก็ได้

3. โรครากปมอาการ เมื่อไส้ฝอยชนิดนี้จะเข้าทำลายทางรากกทำให้รากแสดงอาการเป็นปุ่มปมไม่เจริญ

++การป้องกันกำจัด ++ ใช้ยาป้องกันกำจัดไส้เดือนฝอย เช่น คาโบฟูราน 3 จี รองก้นหลุมหรือจะหว่านไปทั่วทั้งแปลงก่อนปลูก โดยจะใส่ในอัตรา 20-30 กิโลกรัมต่อไร่ หรือจะใช้ยานีมากอนหว่านลงดินก่อนไถแปร แล้วปล่อยทิ้งไว้ 15-20 วัน จึงค่อยนำเอาแง่งพันธุ์ไปปลูก

การเก็บเกี่ยวขิง :

การเก็บเกี่ยวขิงอ่อน จะเริ่มเก็บเมื่ออายุประมาณ 4-6 เดือน ผลผลิตของแง่งสดได้ประมาณ 3,000-4,000 กิโลกรัมต่อไร่

การเก็บเกี่ยวขิงแก่ จะเริ่มเก็บเมื่อขิงมีอายุได้ประมาณ 8-12 เดือน โดยจะสังเกตได้จากใบและลำต้น เริ่มมีอาการเหี่ยวเฉาผลผลิตที่ได้ประมาณ 3,000-5,000 กิโลกรัม

Related Posts
Leave a Reply

Your email address will not be published.Required fields are marked *